Call of Duty®: Vanguard กับชุดคู่มือค่ายฝึกสำหรับทหารใหม่ ด้วยคำแนะนำสำหรับการเล่นใน 10 ชั่วโมงแรก

เตรียมตัวให้พร้อม Call of Duty: Vanguard พร้อมรบแล้วในวันที่ 5 พฤศจิกายนด้วยชุดคู่มือค่ายฝึกทหารใหม่ เริ่มกันที่คำแนะนำสำหรับการเล่นใน 10 ชั่วโมงแรก

เมนูนำทางด้านข้าง:

·        Start

·        การเลือกที่ยากที่สุด: เริ่มที่ไหนดี

·        Campaign

·        Multiplayer

·        Zombies

·        เคล็ดลับ 10 ข้อ

“บางครั้งการทำภารกิจให้สำเร็จก็เป็นหนทางเดียวในการให้เกียรติทหารหาญผู้ล่วงลับ” — อาร์เทอร์ คิงส์ลีย์, S.O.T.F. 001 - Vanguard

เตรียมพร้อมสำหรับค่ายฝึกทหารใหม่

ก่อนที่ Call of Duty: Vanguard จะออก ชุดคู่มือนี้มีเนื้อหาครอบคลุมสิ่งที่เจ้าหน้าที่หน้าใหม่และผู้ที่หวนคืนสู่การปฏิบัติการอีกครั้งต้องรู้เพื่อคว้าความสำเร็จใน Campaign สุดประทับใจ Multiplayerโหมดผู้เล่นหลายคนสุดระทึก และประสบการณ์สุดตื่นเต้นใน Zombies

Vanguard มีอะไรต้องทำอยู่มากมาย แต่อย่าเพิ่งอ่อนใจไปก่อน เพราะนี่คือวิธีรับมือกับ 10 ชั่วโมงแรกของ Call of Duty Vanguard

Start

เมื่อเปิดเกมขึ้นมาครั้งแรก คุณจะได้พบกับลำดับการบูตและหน้าจอชื่อเกม กดปุ่มตามที่เกมแจ้ง อ่านใบอนุญาตการใช้ซอฟต์แวร์และสัญญาบริการให้เข้าใจแล้วยอมรับ จากนั้นไปต่อที่การปรับการตั้งค่าพื้นฐานบางประการ

การตั้งค่า ได้แก่ พื้นที่ปลอดภัยบนการแสดงผลของคุณ, ปรับการควบคุมพื้นฐาน, เลือกมิกซ์เสียงที่ต้องการซึ่งเหมาะกับสภาพแวดล้อมในการฟังของคุณ และเปิดตัวเลือกสำหรับการเข้าถึงต่างๆ ซึ่งได้แก่ การตั้งค่าต่างๆ สำหรับอาการตาบอดสี, การกำหนดสีให้ไอคอนผู้เล่นและศัตรูบนแผนที่ขนาดย่อ และการอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีไว้เพื่อช่วยให้ชุมของเราเล่นเกมได้อย่างมั่นใจ

หมายเหตุ: เปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้ได้ในเกมเสมอ แม้กระทั่งระหว่างแมตช์ออนไลน์ผู้เล่นหลายคนหรือ Zombies ก็ตาม

จากนั้นคุณต้องลงชื่อเข้าใจบัญชี Activision บัญชี Activision จะทำให้คุณได้เชื่อมต่อกับเพื่อนๆ และแชร์ความคืบหน้าไปบนทุกแพลตฟอร์ม หากคุณยังไม่มีบัญชี Activision ให้สมัครได้ในเกมหรือสร้างขึ้นมาใหม่ที่นี่ หรือคุณจะไม่ลงชื่อเข้าใช้ก็ได้ แต่เล่นได้แบบออฟไลน์เท่านั้น

หลังจากทำตามขั้นตอนง่ายๆ เหล่านี้เสร็จสิ้นและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์แล้ว คุณก็จะไปต่อที่เมนูหลัก

การเลือกที่ยากที่สุด: เริ่มที่ไหนดี

พอมีโหมดขนาดใหญ่ถึงสามโหมด คือ Campaign, Multiplayer และ Zombies ต่อให้เป็นมือโปรรุ่นเดอะของ Call of Duty ก็คงยากจะตัดสินใจ ว่าเริ่มที่ไหนดี?

สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่หรือที่เคยเล่นมาแล้ว เราขอแนะนำให้เริ่มที่แคมเปญ เพราะคุณจะไม่เพียงได้พบกับเส้นเรื่องสุดอลังการ แต่ยังจะได้เรียนรู้พื้นฐานด้วยตัวเองก่อนไปจับคู่สู้กับคนอื่นด้วย

Campaign

ใน Vanguard คุณจะได้เล่นเป็นทหารธรรมดาหนึ่งในห้านายผู้ผงาดขึ้นเป็นวีรชนในการทดสอบสุดทรหดของสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหลายแนวรบนั้นฉายให้เห็นต้นกำเนิดของหน่วยรบพิเศษเมื่อทหารเหล่านี้ก่อตั้ง Task Force One ขึ้นมา คุณจะได้พบกับผู้นำทีม สิบเอก อาร์เทอร์ คิงส์ลีย์, พลแม่นปืนมือฉมัง ร้อยโท โปลินา เปโตรวา, พลวางระเบิด พลทหาร ลูคัส ริกส์, นักบินมือหนึ่ง เรืออากาศเอก เวด แจ็กสัน และมือขวาของคิงส์ลีย์ สิบเอกริชาร์ด เว็บบ์

บทความเรื่องแคมเปญ Vanguard โดยละเอียดและประวัติตัวละครของเรา

การทำ Campaign เสร็จสิ้นจะช่วยสร้างทักษะซึ่งจำเป็นต่อการเป็นนักสู้ที่เก่งที่สุดเมื่อต้องต่อสู้อย่างดุเดือดทั้งในระยะประชิดและระยะไกล รวมทั้งในการทำสงครามที่ต้องทุ่มสุดตัวด้วย เลือกความยากได้หลากหลายระดับ ไม่ว่าจะระดับทหารเกณฑ์สำหรับผู้เล่นมือใหม่หรือคนที่อยากสนุกกับเนื้อเรื่อง และสำหรับนักสู้ผู้มีประสบการณ์ก็เลือกระดับทหารผ่านศึกได้

Multiplayer

Vanguard เปิดตัวด้วย 20 maps ตั้งแต่วันแรก ซึ่งนับว่าเป็น Day 1 ครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในโหมด Multiplayer ของ Call of Duty   ร่วมสัมผัสการต่อสู้เชิงยุทธวิธีอันว่องไวในมุมมอง First person ผ่านความหลากหลายของโหมด Multiplayer แบบดั้งเดิม ที่มีทั้งทีมเดธแมตช์, ยืนยันการสังหาร, การครอบงำ และอื่นๆ รวมทั้งโหมดใหม่เอี่ยมอย่างการลาดตระเวนและหุบเขาผู้ชนะ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์เอาชีวิตรอดหลายสนามประลองที่ทีมต่างๆ ต้องมาสู้กันเพื่อเป็นหน่วยรบสุดท้ายที่จะยืนหยัดอยู่ได้

เพลย์ลิสต์แนะนำและตัวกรองเล่นด่วน

เพลย์ลิสต์แนะนำบนเมนูหลักของโหมดผู้เล่นหลายคนจะมีรายชื่อโหมดเกมที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปในทุกสัปดาห์ เลือกโหมดเกมเหล่านั้นหรือใช้ฟีเจอร์เล่นด่วนเพื่อเข้าคิวรอโหมดโปรดของคุณ ที่อยู่ในตัวกรองเล่นด่วน เลือกทุกโหมดที่คุณสนใจอยากเล่น ตั้งแต่คอร์ถึงฮาร์ดคอร์ แล้วกดเล่นด่วนเพื่อเข้าร่วมในแมตช์ใดก็ตามที่ตรงกับการตั้งค่าของคุณ หากคุณเป็นหน้าใหม่หรือเพิ่งกลับมาเล่น ให้เริ่มด้วยทีมเดธแมตช์เพื่อฝึกพื้นฐานให้แน่นก่อนเพิ่มวัตถุประสงค์เข้าไป

ฟีเจอร์ใหม่: ความเร็วในการต่อสู้

ฟีเจอร์ความเร็วในการต่อสู้เป็นสิ่งใหม่ใน Vanguard ซึ่งเลือกได้ในตัวกรองเล่นด่วน การตั้งค่านี้ช่วยให้ผู้เล่นเพิ่มความร้อนแรงของแมตช์ด้วยการเพิ่มจำนวนผู้เล่นโดยเทียบกับขนาดของแผนที่ เลือกความเร็วการต่อสู้ระดับยุทธวิธีเพื่อสัมผัสประสบการณ์การต่อสู้ที่ลึกซึ้งและเข้มข้น หรือระดับการจู่โจมเพื่อพบการต่อสู้ที่ไม่เร้าใจเกินไปนัก และระดับการจู่โจมสายฟ้าแลบเพื่อสัมผัสการต่อสู้ที่โกลาหลและแอ็กชันมาเต็ม เลือกทุกแบบเพื่อสลับไปมาตลอดการเล่นของคุณ

สำหรับผู้ที่เล่นเป็นครั้งแรก เราขอแนะนำความเร็วการต่อสู้ระดับยุทธวิธีเพื่อจำกัดจำนวนทหารฝ่ายศัตรู แม้คนที่ชอบความโกลาหลอลหม่านจะอยากไปเล่นที่ความเร็วการต่อสู้ระดับการจู่โจมและการจู่โจมสายฟ้าแลบเลยก็ตาม

แมตช์ส่วนตัวและแคลน

ยังลังเลที่จะเข้าร่วมในแมตช์ผู้เล่นหลายคนใช่หรือไม่? มีฟีเจอร์ใหญ่ๆ สองตัวที่ช่วยให้คุณเกิดความมั่นใจในการต่อสู้ นั่นก็คือ แมตช์ส่วนตัวและแคลน

คนที่เล่นแมตช์ส่วนตัวได้มีแค่คุณและคนที่ได้รับเชิญให้เข้าล็อบบี้เท่านั้น แม้คุณจะไม่ได้ค่าประสบการณ์ แต่ก็สามารถเผชิญหน้ากับศัตรูที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์หรือก็คือบอทบนแผนที่ต่างๆ และโหมดหลักพร้อมอุปกรณ์การรบที่คุณเลือก

เล่นแมตช์ส่วนตัวสักสองสามแมตช์เพื่อทำความคุ้นเคยกับแผนที่ต่างๆ ในโหมดที่มีให้เล่นในการเล่นด่วนหรือเพลย์ลิสต์สาธารณะ หรือทดสอบอาวุธใหม่ของเราที่อาจมีรูปแบบแรงถีบที่ควบคุมยาก หรือฟีเจอร์อื่นๆ ที่คุณอยากฝึกใช้ให้มั่นใจ

นอกจากแมตช์ส่วนตัวแล้ว การเข้าแคลนกับเพื่อนๆ ก็ช่วยให้เชี่ยวชาญการเล่นโหมดผู้เล่นหลายคนได้ เวลาที่เล่นกับเพื่อนร่วมแคลน คุณจะไม่เพียงได้เล่นกับเพื่อร่วมทีมที่คุ้นเคยกันซึ่งให้คำแนะนำเกี่ยวกับเกมได้ แต่ยังจะได้บูสต์ค่าประสบการณ์และรางวัลอันหลากหลายที่เป็นประโยชน์ต่อความคืบหน้าส่วนตัวด้วย

Zombies

สานต่อเนื้อเรื่องของ Dark Aether ที่เปิดตัวครั้งแรกใน Call of Duty®: Black Ops Cold War ด้วยฉากและเรื่องเล่าใหม่ในสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเริ่มต้นที่ซากปรักหักพังของสตาลินกราด ร่วมมือกับผู้เล่นอีกสามคนในประสบการณ์การปฏิบัติการร่วม "Der Anfang" หรือ "จุดเริ่มต้น" ที่คุณต้องต่อสู้กับฝูงซอมบี้ที่โอแบร์ฟือแรร์ โวลฟรัม ฟอน ลิสท์ นาซีสิ้นหวังผู้ปวารณาตนรับใช้อดีตเจ้าแห่ง Dark Aether และมีพลังในการทำให้ซากศพกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง

ใน “Der Anfang” คุณต้องสร้างสัมพันธ์กับแก่นแท้แห่ง Dark Aether ของคุณเองเมื่อเดินทางผ่านพอร์ทัลต่างๆ ไปสู้กับกองทัพอมตะและทำภรกิจให้สำเร็จ รับทรัพยากรต่างๆ เช่น แก่นแท้, ซาก และหัวใจสังเวย เมื่อคุณต่อสู้และทำภารกิจเสร็จสิ้น ใช้ทรัพยากรเหล่านี้เพื่อพัฒนาอาวุธของคุณที่เครื่องแพ็กอะพันช์, ประดิษฐ์ชุดเกราะและอุปกรณ์ที่โต๊ะประดิษฐ์ และรับความสามารถในการพลิกผันสถานการณ์ที่แท่นบูชาแห่งพันธสัญญา

หลังจากทำภารกิจที่ 4 เสร็จสิ้นแล้ว คุณสามารถลองเล่น Exfil เพื่อหนีเอาชีวิตรอดและรับค่าประสบการณ์โบนัส แต่คือคุณต้องหนีรอดจากฝูงซอมบี้อาละวาดไปยังพอร์ทัลได้ทันเวลา ผู้เล่นที่เล่นเป็นครั้งแรกสามารถเลือกแมตช์เล่นคนเดียวเพื่อทำความเข้าใจประสบการณ์ Zombies ใน Call of Duty: Vanguard ก่อนไปเข้าแมตช์สาธารณะกับผู้เล่นคนอื่นหรือเข้าล็อบบี้กับเพื่อนๆ

ฟีเจอร์ใหม่: แท่นบูชาแห่งพันธสัญญา

รับหัวใจสังเวยไปใช้ที่แท่นบูชาแห่งพันธสัญญาในทุกครั้งที่ทำภารกิจเสร็จสิ้น ติดตั้งพันธสัญญาพร้อมกันสามประการ ตัวอย่างเช่น แดนมลทินที่เพิ่มการทำความเสียหายเมื่อคุณอยู่เฉยๆ, กระสุนเกรมลินที่จะช่วยรีโหลดให้อาวุธที่ไม่ได้ติดตั้งอยู่ไปเรื่อยๆ และไครโอฟรีซเพื่อให้ยิงแล้วมีโอกาสลดความเร็วศัตรู

มีพันธสัญญามากมายให้เลือก ทำให้คุณเปลี่ยนเกมเพลย์และสร้างบิลด์ใหม่ๆ ได้ในแต่ละแมตช์ จะมีการเลือกพันธสัญญาใหม่ในทุกครั้งที่ทำภารกิจเสร็จสิ้น และยิ่งคุณรอดชีวิตในแมตช์นานขึ้นความหายากของพันธสัญญาก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงมียุทธวิธีใหม่ๆ ให้คุณได้ใช้อยู่เสมอ

คำแนะนำ 10 ข้อสำหรับ 10 ชั่วโมงแรก

1. ตั้งค่าให้ถูกต้อง ไม่ว่าคุณจะเล่นบนเครื่องคอนโซลหรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล การใช้การตั้งค่าที่ทำให้ได้ประสบการณ์การเล่นที่ดีที่สุดก็เป็นเรื่องสำคัญ คุณควรให้เวลาสักหน่อยกับการฝึกทดลองใช้ผังปุ่มแบบต่างๆ และความไวในการเล็ง ลองปรับแต่งทัศนวิสัยและสีขององค์ประกอบต่างๆ ในเกม จงให้เวลากับการทำให้อะไรๆ ออกมาเหมาะสม!

2. เล่นแคมเปญก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นหน้าใหม่และที่กลับมาเล่น เราขอบอกอีกครั้งว่า แคมเปญเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมที่สุด เรื่องนี้สอดคล้องกับประเด็นข้างต้นด้วย ในเมื่อคุณจะหยุดเกมชั่วคราวเมื่อใดก็ได้ ก็ใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนได้ตามใจเลย การเล่นแคมเปญจะทำให้คุณได้ความรู้เบื้องต้นสู่โลกของ Vanguard เป็นอย่างดี และเมื่อเล่นจบแล้ว คุณจะพร้อมสุดๆ สำหรับการเข้าแข่งขันในโหมดผู้เล่นหลายคน

3. เลือกอาวุธแล้วลุยเลย ในโหมดผู้เล่นหลายคนและ Zombies เมื่อกำจัดสัตรูแล้วคุณจะได้ค่าประสบการณ์ของอาวุธ ซึ่งค่าประสบการณ์นั้นจะไปปลดล็อกการติดตั้งอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ ไว้ใช้ปรับแต่งอาวุธของคุณให้ตรงใจได้ เมื่อได้ทดลองใช้อาวุธในหมวดหมู่ต่างๆ และพบอาวุธที่ตัวเองชอบแล้ว ให้ใช้ไปสักสองสามแมตช์เพื่อเริ่มใช้ตัวเลือกการปรับแต่งของอาวุธนั้นๆ

4. ทำภารกิจ หากแค่อยากฆ่า ก็ลุยทีมเดธแมตช์ได้เลย แต่ถ้าไม่ใช่แบบนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือทีมของคุณและได้ค่าประสบการณ์ก็คือการทำภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นการขังเป้าหมายในการครอบงำ หรือเก็บแท็กในยืนยันการสังหาร มุ่งมั่นกับภารกิจตรงหน้าแล้วความสามารถของคุณจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน

5. เน้นฆ่าต่อเนื่องต้นทุนต่ำ ต้นทุนต่ำไม่ได้แปลว่าราคาถูก และสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่แล้ว มันเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมให้ได้สัมผัสกับความน่าตื่นเต้นของการฆ่าต่อเนื่องตั้งแต่เริ่ม ลองใช้ข่าวกรองเพื่อเปิดเผยตำแหน่งของศัตรูที่อยู่ใกล้เคียง ใช้เครื่องบินสอดแนมเพื่อเผยตำแหน่งศัตรูให้ทั้งทีของคุณทราบ และใช้ระเบิดร่อนถล่มเพื่อทำลายภารกิจของศัตรูอย่างรวดเร็ว

6. ทำความท้าทายให้เสร็จสิ้น มุ่งหน้าไปยังเมนูความท้าทายในโหมดผู้เล่นหลายคนและ Zombies เพื่อดูภารกิจเฉพาะซึ่งทำแล้วจะได้ค้าประสบการ์โบนัสและไอเทมสำหรับการตกแต่ง เช่น การ์ดเรียกพลใบใหม่ นี่เป็นวิธีที่เหมาะอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความสามารถของคุณ เพราะจะท้าทายให้คุณทำภารกิจที่บางทีอาจมองข้ามไปมาก่อน

7. เช็คค่ายทหาร ค่ายทหารเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณต้องไปเพื่อติดตามความคืบหน้าในปัจจุบันและสร้างเอกลักษณ์ให้ตัวเองในโหมดแคมเปญและผู้เล่นหลายคน นอกจากนี้ยังเป็นที่ที่เอาไว้ดูดูค่าสถิติต่างๆ และอันดับในปัจจุบัน, สถิติการต่อสู้ และเหรียญที่ได้รับมาแล้ว และก็ยังเป็นที่ให้ได้ปรับแต่งโปรไฟล์ของคุณด้วยการ์ดเรียกพล, กรอบ, ฉายาผู้เล่น, ตราสัญลักษณ์ และท่วงท่ากับการพ่นสีต่างๆ ด้วย

8. เชิญเพื่อนๆ และเข้าแคลน อะไรจะไปเหมือนการเล่นแมตช์ผู้เล่นหลายคนหรือจัดการฝู.ซอมบี้กับผองเพื่อน ด้วยความสามารถในการเชื่อต่อกับทุกแพลตฟอร์มที่รองรับ การจัดกลุ่มเล่นเกมก็กลายเป็นเรื่องง่ายดายกว่าครั้งไหนๆ เพื่อนๆ ที่สังหารศัตรูด้วยกันก็จะอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มก้อน อย่าลืมสร้างแคลนขึ้นมา ทุกคนจะได้ได้รางวัลมากขึ้นจากการเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยรบ

9. ลองดู Battle Pass แบตเทิลพาสประจำฤดูกาลที่หกของ Black Ops Cold War มาพร้อมระดับฟรี 24 ระดับใน Vanguard ซึ่งแค่เล่นเกมก็ได้ทุกระดับนั้นมาแล้ว ความคืบหน้าที่มีร่วมกันระหว่างแคมเปญ, Zombies และ Warzone^TM รวมทั้งระดับฟรีจะกระจายไปตามพาสอย่างเหมาะสมแก่ผู้เล่นแต่ละคน อยากปลดล็อกทั้งหมดหรือไม่? ซื้อแบตเทิลพาสในตอนเปิดตัวเพื่อเข้าถึงเนื้อหาทั้ง 100 ระดับ รวมถึงใหม่ๆ ของสกินเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ, พิมพ์เขียวอาวุธ, ตราสัญลักษณ์, ไอเทมที่ใช้แล้วหมดไป และคะแนน Call of Duty ที่มากพอให้ซื้อแบตเทิลพาสต่อไปได้

10. ยิ่งฝึกยิ่งเก่ง ไม่มีใครบอกว่าสงครามเป็นเรื่องง่าย ถ้าแมตช์แรกๆ ยากเย็นนัก ก็ขอให้คุณใจเย็นแล้วเล่นต่อไป ยิ่งคุณเข้าใจความหลากหลายของแผนที่ โมหด อาวุธ และระบบต่างๆ ใน Vanguard คุณก็จะยิ่งมั่นใจและมีทักษะพอให้รับมือได้แม้กระทั่งสถานการณ์ที่ยากเย็นที่สุด

ผงาดเหนือทุกแนวรบ

#Activision #CallofDutyVanguard #Game #News #BYG #BeyondGodlike