Ubisoft จับมือสถาบันชื่อดังเพื่อนำฟีเจอร์ “History of Baghdad” มาสู่ Assassin’s Creed Mirage

วันนี้ Ubisoft ประกาศความร่วมมือกับสถาบันที่มีชื่อเสียงหลายแห่งเพื่อสนับสนุนฟีเจอร์ “History of Baghdad” (ประวัติศาสตร์แบกแดด) ในอัสแซสซินส์ ครีด มิราจ ภาคต่อที่กำลังจะมาถึงในแฟรนไชส์ ​​Assassin's Creed® ซึ่งจะเปิดตัวทั่วโลกวันที่ 12 ตุลาคม 2566 สามารถเล่นได้บนทุกแพลตฟอร์ม โดย "History of Baghdad" ในฐานะส่วนหนึ่งของอัสแซสซินส์ ครีด มิราจ จะนำเสนอวิธีการโต้ตอบแก่ผู้เล่นเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดและความลุ่มลึกของโลกเกม.

ภายในเกม จะมีการจำลองกรุงแบกแดดที่สมจริง ผู้เล่นสามารถค้นพบสถานที่ทางประวัติศาสตร์ทั้งหมด 66 แห่ง โดยแต่ละแห่งทำหน้าที่เป็นประตูสู่ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับยุคสมัย โดยแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ ศิลปะ-วิทยาการ, ความเชื่อและวิถีชีวิต, ราชสำนัก, เศรษฐกิจ, และรัฐบาล ผลงานแต่ละชิ้นจัดทำขึ้นโดยความร่วมมือกับนักประวัติศาสตร์และที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และแสดงด้วยภาพที่คัดสรรมาอย่างดีจากคอลเล็กชันของพิพิธภัณฑ์และสถาบันที่มีชื่อเสียงทั่วโลก อาทิ The David Collection, Institut du monde arabe (IMA), The Khalili Collections และ Shangri La พิพิธภัณฑ์อิสลาม ว่าด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และการออกแบบ.

The David Collection เป็นพิพิธภัณฑ์พิเศษในใจกลางกรุงโคเปนเฮเกนที่มีคอลเล็กชันศิลปะอิสลามที่ครอบคลุมมากที่สุดในโลกตะวันตก ตัวอย่างโบราณวัตถุล้ำค่าจาก The David Collection ที่นำเสนอใน "History of Baghdad" คือ หีบศพแกะสลักด้วยงาช้างที่งดงามพร้อมส่วนควบทองสัมฤทธิ์ .

เป็นเวลากว่าสามสิบปีแล้วที่ Institut du monde arabe ในปารีส (IMA) ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะสะพานเชื่อมวัฒนธรรม ระหว่างฝรั่งเศส โลกอาหรับ และส่วนอื่น ๆ ของโลก สถาบันแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นผู้กระตุ้นการรับรู้ทางวัฒนธรรมและกลายเป็นสถานที่สำคัญสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับโลกอาหรับ หนึ่งในโบราณวัตถุจาก IMA ที่ปรากฏในอัสแซสซินส์ ครีด มิราจ ก็คือ Ruby Lustre Bowl อันวิจิตรงดงาม.

ตลอดห้าทศวรรษที่ผ่านมา ศาสตราจารย์ Sir Nasser D. Khalili ได้รวบรวม 8 คอลเล็กชันงานศิลปะที่ดีที่สุดของโลก โดยเมื่อรวมกันแล้ว "Eight Collections" ประกอบด้วยผลงานกว่า 35,000 ชิ้น ซึ่งหลายชิ้นได้รับการจัดแสดงในสถาบันอันทรงเกียรติทั่วโลก หนึ่งในคอลเล็กชันเหล่านี้อุทิศให้กับศิลปะอิสลามซึ่งประกอบด้วยศิลปวัตถุมากกว่า 28,000 ชิ้น โดยในบรรดาศิลปวัตถุจาก The Khalili Collections ที่นำเสนอในเกม ได้แก่ Planispheric Astrolabe อันน่าประทับใจ.

พิพิธภัณฑ์แชงกรีลา ศิลปะอิสลาม วัฒนธรรม และการออกแบบ เป็นศูนย์กลางของมูลนิธิดอริส ดุ๊ก ในโฮโนลูลู สร้างขึ้นโดยดอริส ดุ๊ก เมื่อปีค.ศ.1937 เดิมทีใช้เป็นบ้านพัก ปัจจุบันแชงกรีลาเป็นสถานที่ที่เสริมสร้างความเข้าใจสาธารณะเกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมอิสลาม เป็นตัวแทนของศิลปินผ่านรูปแบบที่อยู่อาศัย และทำหน้าที่เป็นสถานที่สำหรับการเปลี่ยนแปลงส่วนบุคคลและสังคม หนึ่งในศิลปวัตถุจากแชงกรีลาที่ปรากฏใน History of Baghdad คือ ขวดโหลแก้วเป่าโบราณ ลายซิกแซก.

“อัสแซสซินส์ ครีด มุ่งมั่นที่จะเป็นประตูให้ผู้เล่นได้ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและยุคสมัยที่น่าสำรวจ” Thierry Noël หัวหน้าฝ่ายมนุษยศาสตร์และแรงบันดาลใจของ Ubisoft กล่าว “ด้วยข้อมูลที่รวบรวมโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ประวัติกรุงแบกแดด นำเสนอมุมมองที่อ้างอิงจากงานวิจัยจริง ๆ เกี่ยวกับกรุงแบกแดดและจักรวรรดิอับบาซิดในศตวรรษที่ 9 การทำงานยังรวมไปถึง การขบคิดแก้ปริศนาทางประวัติศาสตร์ และอาศัยความร่วมมือของเรากับผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในการทำให้ฟีเจอร์นี้มีชีวิตขึ้นมาในอัสแซสซินส์ ครีด มิราจ เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อความถูกต้องและแม่นยำซึ่งเป็นจุดเด่นของซีรีส์นี้”

สำหรับที่ปรึกษาพิเศษ ได้แก่ ดร.กแลร์ แอนเดอร์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะอิสลาม และ Digital Lab for Islamic Visual Culture & Collections แห่งมหาวิทยาลัยเอดินบะระ; ดร.วาเนสซา แวน เรนเทอร์เกม ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ยุคกลางของกรุงแบกแดด; ดร.อาลี โอโลมี นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์อิสลาม; และดร.ราฟาเอล เวย์แลนด์ ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์อิสลาม ที่เข้าร่วมกับ Ubisoft ในการสร้างเกม; โดยทุกท่านที่กล่าวไปล้วนมีความสำคัญต่อฟีเจอร์ “History of Baghdad” ไปจนถึงการสร้างกรุงแบกแดดภายในเกม อัสแซสซินส์ ครีด มิราจ ด้วย.

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวฟีเจอร์ การมีส่วนร่วมของพันธมิตรแต่ละราย และความพยายามร่วมกันของทีมงานกับที่ปรึกษาในการทำให้โครงการนี้เป็นจริง โปรดไปที่: https://ubisoft.com/r/acm_history_of_baghdad.

#Assassin’sCreedMirage #Game #News #BYG #BeyondGodlike