[Review] John Wick: Chapter 4 ภาคต่อของสุดยอดหนังแอคชั่นแห่งยุค
พร้อมส่งต่อความมันส์ ทวีความเดือดขึ้นอีกขั้น กับภาคต่อของสุดยอดหนังแอคชั่นแห่งยุคที่หลายๆ คนต่างเฝ้ารอคอย กับ John Wick: Chapter 4 ที่ในภาคนี้เรื่องราวสุดเข้มข้นกำลังมุ่งไปสู่บทสรุปที่หลายๆ คนรอคอยกันมาตลอด 9 ปีที่ผ่านมา แล้วในภาคนี้จะสุดยอดสมกับที่ทุกคนหวังไว้หรือไม่ ไปรับชมรีวิวกันได้เลย!!
เรื่องราวของ John Wick: Chapter 4 เกิดขึ้นไม่นานหลังจากเหตุการณ์ในภาคก่อนหน้าที่ John Wick (รับบทโดย Keanu Reeves ) ได้ถูกหักหลังจากเพื่อนสนิทอย่าง Winston (รับบทโดย Ian McShane) ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหนักและได้ถูกช่วยเหลือจาก Bowery King (รับบทโดย Laurence Fishburne) หลังจากรอดจากวิกฤตครั้งใหญ่มาได้ ทั้งสองได้ร่วมมือกันขย้ำความแค้นที่ฝังอยู่ในอก พร้อมผันเปลี่ยนตัวเองจากผู้ถูกล่าสู่การเป็นผู้ล่าอย่างเต็มตัว ในขณะเดียวกันทางฝั่งสภาสูงเองก็ไม่ยอมตกเป็นผู้ถูกล่าอยู่ฝ่ายเดียวพร้อมเปิดสัญญาฆ่า John Wick โดยการตั้งค่าหัวครั้งใหญ่ให้กับเหล่านักฆ่าทั่วโลก แถมยังเรียก Caine (รับบทโดย Donnie Yen) นักฆ่าตาบอดฝีมือฉกาจที่เคยเป็นสหายเก่าของ John Wick กลับมาร่วมไล่ล่าในครั้งนี้ด้วย
เนื้อเรื่องของ John Wick: Chapter 4 ยังคงมีการดำเนินเรื่องราวแบบเส้นตรงเหมือนในสามภาคที่ผ่านมา แต่ความเป็นเส้นตรงนั้นเอง กับสอดแทรกไปด้วยความสนุก ฉากการต่อสู้สุดอลังการ งาน Production ที่จัดหนักจัดเต็มชนิดที่เรียกได้ว่า ทีมงานทุกคนได้ใส่ทั้งร่างกาย, จิตวิญญาณ และทุกสิ่งทุกอย่างเข้าสู่หนังในภาคนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะตลอด 2 ชั่วโมง 49 นาที ทุกคนจะได้รับชมฉากการต่อสู้ที่จัดหนัก จัดเต็ม ถึงพริกถึงขิงตั้งแต่ ต้นเรื่อง-กลางเรื่อง-ท้ายเรื่อง โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่องนี้เองที่มีการออกแบบการต่อสู้ที่ดุเดือด รวมถึงฉากการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์มากมายจนคนดูอย่างเรานั้นแทบไม่ได้พักหายใจ ไม่ว่าจะเป็นฉากการต่อสู้ที่ใช้มุมกล้องแบบ Bird Eye View ที่ต้องบอกเลยว่ามันเท่ และให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังเล่นเกมอยู่ หรือจะเป็นฉากการต่อสู้บนบันไดที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของหนังในภาคนี้นั้นก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม
สิ่งที่ดีงามที่สุดในภาคนี้ก็คงจะไม่พ้นการต่อสู้ที่มันช่างสุดยอดและหาได้ยากในหนังเรื่องๆ อื่น โดยนอกจากตัวละครอย่าง John Wick เองที่ในภาคนี้ก็ยังคงความเก่งกาจผิดมนุษย์มนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตัวละครอื่นๆ ในเรื่องก็ได้โชว์ของกันแบบจัดหนักจัดเต็มเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวละครอย่าง Caine นักฆ่าตาบอดที่ได้มีการโชว์ทักษะการต่อสู้สุดอัศจรรย์ ท่าทางการต่อสู้สุดเท่ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เขาใช้นั้นสามารถทำให้คนดูเชื่อได้จริงๆ ว่า เขาคนนี้คือ คนตาบอดที่โคตรจะเก่ง!! และอีกตัวละครอย่าง Tracker (รับบทโดย Shamier Anderson) นักฆ่าสายสะกดรอยที่มีน้องหมาคู่ใจสุดน่ารักที่บอกเลยว่าในภาคนี้ มีซีนเด็ดๆ ที่สามารถเรียกเสียงเฮจากแฟนๆ ได้หลายฉากเลยทีเดียว
เมื่อพูดถึงข้อดีกันไปเยอะแล้ว หากจะบอกว่า John Wick: Chapter 4 เป็นหนังที่ Perfect จนไร้ข้อติก็คงจะเป็นอะไรที่ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะแม้ว่าหนังในภาคนี้มันจะสุดยอดทั้งในเรื่องของนักแสดงคุณภาพและฉากการต่อสู้อันดุเดือด แต่ด้วยความยาวของหนังที่มีมากถึง 2 ชั่วโมง 49 นาที ทำให้มีบางฉากที่เรารู้สึกว่ามันมีความยืดยาวมากจนเกินไป อีกทั้งในเรื่องของความสัมพันธ์ของตัวละครบางตัวที่สามารถบอกเล่าได้มากกว่านี้กลับไม่ได้ถูกนำมาเล่นจึงค่อนข้างน่าเสียดาย แต่ทั้งนี้ข้อติที่กล่าวมามันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงแต่อย่างใด เพราะเราเชื่อว่าทุกคนที่มาดูหนังเรื่องนี้หวังเพียงได้เห็นฉากต่อสู้มันๆ ซึ่งแน่นอนว่าภาคนี้จัดมาให้เราแบบจัดเต็มเกินที่เราหวังไว้อย่างแน่นอน
โดยสรุปแล้วหากจะบอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของโลกภาพยนตร์แนวแอคชั่น-ต่อสู้ อีกทั้งมันได้สร้างมาตรฐานใหม่แก่วงการนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็คงจะไม่เกินจริงนัก เพราะว่า “John Wick: Chapter 4” นั้นมันสามารถทำได้ขนาดนั้นจริงๆ สำหรับเพื่อนๆ ท่านใดที่ตั้งตารอรับชมหนังเรื่องนี้อยู่แล้วก็สบายใจและไปดูกันได้เลย ส่วนเพื่อนๆ ที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะไปดูดีหรือไม่ ขอยืนยันเลยว่าไปดูกันเถอะ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังกับมันอย่างแน่นอน!!
#JohnWick:Chapter4 #Movie #Review #BYG #BeyondGodlike